วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Flintstones

มนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนส์ (อังกฤษThe Flintstones) เป็นการ์ตูนอเมริกัน สร้างโดย ฮันนา-บาร์เบอราโปรดักชัน เรื่องราวของครอบครัวยุคหินในจินตนาการที่มีการผสมผสานวัตถุและวิถีชีวิตสมัยปัจจุบันลงไป เช่นการใช้รถแบบวิ่งเอง การเลี้ยงไดโนเสาร์แทนสุนัข ชื่อสกุลของตัวละครเอกในเรื่อง (ฟลิ้นท์สโตนส์) แปลว่า หินเหล็กไฟ ส่วนชื่อสกุล รับเบิล แปลว่าเศษหินหรือเศษอิฐ
อันที่จริง ภาพชีวิตและสังคมของครอบครัวยุคหินในการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือสังคมของชาวอเมริกันในช่วงยุคประมาณทศวรรษที่ 1960 นั่นเอง ไม่ใช่สังคมมนุษย์ยุคหินจริงๆ เพียงแต่ในการ์ตูนได้แปลงเทคโนโลยีทุกอย่างให้มีกลิ่นอายของ "ยุคหิน" แม้ว่าจะไม่ใช่ของยุคหินจริงๆ ตามประวัติศาสตร์ เช่น เฟรดและบาร์นี่ย์ขับรถยนต์ (แบบการ์ตูนยุคหิน คือไม่มีเครื่องยนต์) มีโทรศัพท์ใช้ มีกล้องถ่ายรูป วิลม่าและเบ็ตตี้มีเครื่องซักผ้าขับเคลื่อนโดยพลังงานจากสัตว์เลี้ยง สังคมยุคนั้นมีเครื่องบินและสนามบิน เพียงแต่เป็นเครื่องบินที่เป็นตัวทีโรแด็กทิลหรือไดโนเสาร์ประเภทนกยักษ์โบราณ บนถนนมีไฟสัญญาณจราจร มีตำรวจจราจรที่ขี่จักรยานยนต์ เฟรดทำงานในบริษัทขุดเหมืองหิน มีเจ้านายเป็นนักธุรกิจที่มีเลขานุการส่วนตัว เช่นเดียวกับนักธุรกิจยุคปัจจุบัน ยามว่างเฟรดก็เล่นโบว์ลิ่ง เพียงแต่อุปกรณ์ต่างๆ ถูกแปลงให้ดูเป็นของยุคหิน (ในการ์ตูน) เท่านั้น
การ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งของฮันน่า-บาร์เบอร์ร่าที่สะท้อนสังคมทุนนิยมแบบอเมริกันในช่วงทศวรรษ 1960 ในลักษณะคล้ายกับเรื่องมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนส์และผลิตออกมาในเวลาใกล้เคียงกันคือเรื่องครอบครัวเจ้ทสัน (The Jetson Family)ซึ่งผูกเรื่องเป็นของโลกอนาคต แต่แท้จริงแล้วก็เป็นวิถีชีวิตของชาวอเมริกันในยุค 1960 นั่นเอง

ตัวละครหลัก

บ้านฟลินท์สโตน

เฟรดเดอริค "เฟรด" ฟลินท์สโตน 
ชายหนุ่มวัยกลางคน เป็นคนใจร้อน ขี้โวยวาย เอาแต่ใจตนเอง มีทิฐิในบางครั้งแต่รักลูกและภรรยามาก รักพอๆ กับกลัวภรรยา
วิลม่า ฟลินท์สโตน 
ภรรยาของเฟรด เป็นคนใจเย็นคอยแก้ปัญหาของเฟรดเป็นประจำ
เพ็บเบิ้ล ฟลินท์สโตน รับเบิล 
ลูกสาวคนเดียวของเฟรด และ วิลม่า มีนิสัยเอาแต่ใจตนเองเหมือนกับเฟรด ภายหลังแต่งงานกับแบม แบม และมีลูกแฝด (ชื่อ เพ็บเบิล แปลว่าก้อนกรวด หรือหินก้อนเล็กๆ)
ดีโน่ 
ไดโนเสาร์สัตว์เลี้ยงของบ้านฟลิ้นท์สโตน

บ้านรับเบิล

บาร์นี่ รับเบิล 
เพื่อนสนิทของเฟรด รูปร่างเตี้ยล่ำ ผมสีทอง บาร์นี่เป็นคนมองโลกในแง่ดีและใจเย็น จึงคอยช่วยเหลือเฟรดเสมอๆ แต่บ่อยครั้งที่มักจะโดนเฟรดลากไปทำวีรกรรมความเปิ่นเสียทุกครั้ง
เบ็ตตี้ รับเบิล 
ภรรยาของบาร์นี่ เป็นเพื่อนสนิทของวิลม่าตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ
แบม แบม รับเบิล 
ลูกบุญธรรมของบาร์นี่และเบ็ตตี้ มีพลังเหนือเด็กทั่วไป ทำให้บาร์นี่ต้องเจ็บตัวทุกครั้ง
CR. http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C
ภาพจาก https://www.google.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

10 อุโมงค์ต้นไม้ (Tree Tunnel) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

Tree Tunnel หรืออุโมงค์ต้นไม้ คือบริเวณที่ถนนผ่านสวนหรือป่าซึ่งกิ่งก้านสาขาและใบของต้นไม้สองข้างทางปกคลุมจนมีลักษณะคล้ายอุโมงค์  ในไทยเราก็มีอุโมงค์ต้นไม้หลายแห่งและที่มีชื่อเสียงมากก็คืออุโมงค์ต้นไม้ที่เขาใหญ่บริเวณถนนธนรัชต์  อุโมงค์ต้นไม้อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือเกิดจากการปลูกเมื่อมีการสร้างถนนเพื่อให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงาม

ภาพที่นำมาฝากพวกเราวันนี้เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่มีชื่อเสียงของโลก  10 แห่ง ซึ่งเชื่อว่ายังมีอุโมงค์ต้นไม้อีกมากมายที่มีความสวยงามไม่แพ้กันครับ

1. Jacarandas Walk ในประเทศอาฟริกาใต้    อุโมงค์ต้นไม้นี้อยู่ที่เมือง Johannesburg  เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่เกิดขึ้นจากต้น Jacarandas  ไม้พันธ์นี้เป็นต้นไม้พื้นเมืองของประเทศในทวีปอเมริกาใต้ (Uruguay, Brazil, Peru และ Argentina) แต่ถูกนำเข้ามาที่อาฟริกาใต้เมื่อประมาณ 100 ปีก่อนและกลายเป็นต้นไม้ที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายในเมืองนี้้กว่า 7 หมื่นต้น  Jacarandas จะออกดอกทุกปีในเดือนตุลาคม ดอกสีม่วงของมันทำให้อุโมงค์ต้นไม้ที่นี่เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก



2. Tunnel of Love ประเทศยูเครน   อุโมงค์นี้อยู่ที่เมือง Klevan ประเทศยูเครน  เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร แตกต่างจากอุโมงค์ต้นไม้อื่นเพราะเป็นอุโมงค์ต้นไม้ของเส้นทางรถไฟครับ



3. Cherry Blossom Tunnel ในประเทศเยอรมันนี  อุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้อยู่ที่ถนน Heerstrabe ในเมือง Bonn จุดเด่นของอุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้คือดอกเขอรรี่ จะบานเพียงปีละครั้งในฤดูร้อนของที่นี่ โดยจะบานอยู่ประมาณ 7 - 10 วันเท่านั้น



4. The Dark Hedges ในสหราชอาณาจักร  อุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้อยู่ที่ถนน Bregagh Road ใกล้ๆ หมู่บ้าน Stranocum,County Antrim,ในไอร์แลนด์เหนือ มีอายุกว่า 300 ปี เกิดจากต้น beech  กว่า 100 ต้น  จุดเด่นของอุโมงค์ต้นไม้ที่นี่อยู่ที่ความแปลกตาของรูปลักษณ์ของมัน จนทำให้ The Dark Hedges เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของไอร์แลนด์เหนือ


 5.  Rua Gonçalo de Carvalho ในประเทศบราซิล   อุโมงค์ต้นไม้นี้อยู่ที่ถนน Gonçalo de Carvalho ยาวประมาณ 500 เมตร เกิดจากต้นไม้พันธ์ tipuana กว่า 100 ต้น มีความพยายามจากนักธุรกิจที่จะรื้อถอนต้นไม้ที่ถนนแห่งนี้เพื่อพัฒนาธุรกิจแต่ได้รับการต่อต้านจากมวลชนและนักอนุรักษ์จนมีการยกเลิกโครงการไป ในที่สุดอุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น Heritage Environment in Latin America ในปี 2006 นับเป็นครั้งแรกที่ต้นไม้ริมถนนในตัวเมืองได้รับการยกย่องเช่นนี้ 



6.  Oak Alley Plantation Tree Tunnel ในประเทศสหรัฐอเมริกา  อุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้เกิดจากต้น Oak ที่ถูกปลูกตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18  อุโมงค์ต้นไม้ที่นี่มีความยาวประมาณ 240 เมตร อยู่ที่ชุมชน Vacherie, รัฐ Louisiana และได้รับการคุ้มครองให้เป็น National Historic Landmark ของประเทศสหรัฐอเมริกา



7. Natural Tree Tunnel  ในประเทศสหรัฐอเมริกา  อุโมงค์ต้นไม้นี้อยู่ที่ Mendocino County รัฐแคลิฟอร์เนีย  เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่มีรถยนต์สัญจรมากที่สุด


8.  Autumn Tree Tunnel ในประเทศสหรัฐอเมริกา  อุโมงค์ต้นไม้นี้อยู่ที่ Smuggler’s Notch, Vermont state park รัฐ Vermont   จุดเด่นของอุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้ก็คือการเปลี่ยนสีของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง โดยเริ่มจากตอนเหนือของ Vermont state park และค่อยๆ ไล่มาทางตอนใต้ตามฤดูกาล



9. Ginkgo Tree Tunnel ในประเทศญี่ปุ่น   สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วต้นแปะก๊วยเป็นต้นไม้พิเศษที่ถูกยกย่องให้เป็นต้นไม้แห่งความหวัง (the bearer of hope)  ต้นแปะก๊วยเป็นต้นไม้ที่ทนทานมาก ในเมือง Hiroshima ที่ถูกระเบิดปรมาณูโจมตีในสงครามโลกครั้งที่ 2  มีต้นแปะก๊วย 6 ต้นที่ถูกระเบิดแต่ยังคงมีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบัน ในสวนและถนนในกรุงโตเกียวมีต้นแปะก๊วยกว่าหกหมื่นห้าพันต้นและที่ด้านนอกของสวน Meiji Shrine ในกรุงโตเกียว มีอุโมงค์ต้นไม้ที่เกิดจากต้นแปะก๊วยที่สวยงามมาก




10. Yew Tree Tunnel ในสหราชอาณาจักร  อุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้อยู่ที่ Wales ในสหราชอาณาจักร เชื่อกันว่าถูกปลูกครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยครอบครัว Dyer  และถูกดัดให้รูปโค้ง กิ่งก้านสาขาของต้น Yew เกี่ยวพันกันจนไม่สามารถนับจำนวนต้นได้ในปัจจุบัน   เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาถึง 9 ปี เพื่อตัดแต่งให้ Yew Tree Tunnel กลับมามีสภาพเป็นอุโมงค์ต้นไม้ดังที่เคยเป็นในอดีต 

ขอขอบคุณ